ฝรั่งเศส โดนทีเด็ด โปแลนด์ ที่สู้ยิบตาแม้จะตกรอบไปแล้วก็ตาม แต่ขอไว้ลายให้โลกได้เห็นด้วยการไล่ตีเสมอทัพ “ตราไก่” 1-1 ในศึกยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี นัดสุดท้าย เมื่อวันอังคารทีท 25 มิ.ย. โดยการได้ 1 คะแนนทำให้ทีมของกุนซือดีดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ได้ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ในฐานะอันดับ 2 ส่วน โปแลนด์ มี 1 คะแนนกลับบ้านด้วยความภาคภูมิใจ

ฟุตบอล ยูโร 2024 กลุ่ม ดี (นัดสุดท้าย)

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน 2567

ฝรั่งเศส – โปแลนด์

สนาม : เบเฟาเบ สตาดิโอน ดอร์ทมุนด์

สำหรับเกมแมตช์สุดท้าย กลุ่ม ดี กุนซือ ดีดิเยร์ เดส์ชองส์ ยังคงจัดตัวหลักลงสนาม โดยส่ง คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ลงตัวจริง และหวังเอาชนะ โปแลนด์ ที่ตกรอบไปแล้วให้ได้ เพื่อการันตีการเป็นแชมป์กลุ่ม ขณะที่คู่แข่งขอไว้ลายโดยส่ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ไล่ล่าประตู เพราะถึงจะไม่มีสิทธิ์ในการผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ แต่ต้องการฝากผลงานให้คอลูกหนังได้เห็นว่าพวกเขาไม่ใช่ทีมธรรมดาๆ

เปิดฉากครึ่งแรกมาทัพ “ตราไก่” ครองบอลกดดันได้ดีกว่าแต่ยังหาโอกาสเจาะไม่ได้ กลายเป็น นาทีที่ 5 โปแลนด์ ได้ทักทายก่อนหลัง พิโอเตอร์ ซีลินสกี้ สับไกจากแถวสองแต่ยังไม่ผ่านมือ ไมค์ เมนญอง พุ่งรับไว้ได้

ทัพ “ตราไก่” มีลุ้นทำประตูอีกครั้งในนาทีที่ 19 จากจังหวะที่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ลากบอลไปแถวกรอบเขตโทษก่อนส่งบอลถวายพานให้ อุสมาน เดมเบเล่ ซัดเต็มข้อแต่ติดเซฟของ ลูคัส สโครุสพสกี้

เข้าสู่นาทีที่ 34 โปแลนด์ พยายามต่อเกมสู้และเกือบได้ประตูจากจังหวะที่ พิโอเตอร์ ซีลินสกี้ เปิดบอลมาให้ เลวานดอฟสกี้ ได้โอกาสโหม่งแต่น่าเสียดายที่บอลออกเสาไปนิดเดียวเท่านั้น

เอ็มบัปเป้ สร้างความปั่นป่วนให้กับแนวรับ โปแลนด์ อย่างต่อเนื่อง และในนาทีที่ 42 “ประธานเป้” ชิงบอลกับ บรัดเล่ย์ บาร์กโกล่า และหลุดเข้าไปซัดประตูแต่ติดเซฟ สโครุพสกี้

ฝรั่งเศสเดินหน้าจะเอาประตูให้ได้และมีลุ้นอีกครั้งในนาทีที่ 44 จากจังหวะที่ เอ็มบัปเป้ หลุดไปทางฝั่งซ้าย และเจ้าตัวจัดการซัดเต็มแรงแต่ติดบล็อกของ สโครุพสกี้ อีกครั้ง หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายไหนทำอะไรกันได้จบครึ่งแรกเสมอ 0-0

ครึ่งแรก ฝรั่งเศส 0-0 โปแลนด์

เข้าสู่ครึ่งหลัง ฝรั่งเศส ยังคงเดินหน้าบุกแหลกต่อไป และในนาทีที่ 48 “เลส์ เบลอส์” ได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะการยิงของ เอ็มบัปเป้ แต่ติดเซฟ สโครุพสกี้ จากนั้นอีกไม่ถึงนาที เอ็มบัปเป้ ได้ซัดมุมเดินทีเดิม แต่หลุดเสาไกลแบบมีลุ้น

“ตราไก่” ยังคงพยายามอย่างหนักและในที่สุดก็มาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เดมเบเล่ โดนทำฟาวล์ และ เอ็มบัปเป้ สวมบทเพชฌฆาตจัดการสังหารไม่เหลือซาก ส่งให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 56

แม้ ฝรั่งเศส จะครองเกมและสร้างโอกาสได้อย่างต่อเนื่อง แต่ในนาทีที่ 72 จากความประมาทของ โอเรเลียง ชูอาเมนี่ ทำให้โดน เลวานดอฟสกี้ แย่งบอลไปและจัดการยิงเต็มข้อแต่บอลเฉียดเสาออไปนิดเดียว

เข้าสู่นาทีที่ 76 ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่ ทำฟาวล์ คาโรล ชวิเดอร์สกี้  ในเขตโทษกรรมการเช็ควีเออาร์ยืนยันเป็นจุดโทษ และ เลวานดอสกี้ รับหน้าที่สังหารแต่ติดเซฟ ไมค์ เมนญอง อย่างไรก็ตาม โกลเลือดเฟร้นช์ โดยจับว่าพุ่งออกมาจากเส้นก่อน ทำให้ต้องยิงใหม่ และ “เลวาน” ขอแก้ตัวอีกครั้ง และไม่พลาดทำให้ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ ในนาทีที่ 79

เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายเกมยังคงเข้มข้น ฝรั่งเศส ได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะการทำชิ่งทางฝั่งขวาโดย เอ็มบัปเป้ ส่งให้ ชูลส์ กุนเด้ ซึ่งผ่านบอลเข้าไปตรงกลางเขตโทษ และ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ได้ซัดแต่ติดบล็อกแนวรับโปแลนด์

ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ฝรั่งเศส พยายามที่จะครองเกม และหาโอกาสจบสกอร์แต่ไม่สำเร็จ หมดเวลาการแข่งขันทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 ทำให้ “ตราไก่” มี 5 คะแนน เป็นอันดับ 2 ได้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วน โปแลนด์ ตกรอบแบบไว้ลายด้วยการมี 1 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ฝรั่งเศส (4-3-3) : ไมค์ เมนญอง – ชูลส์ กุนเด้, วิลเลี่ยม ซาลิบา, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์กน็องเดซ – โอเรเลียง ชูอาเมนี่ (ยุสซุฟ โฟฟาน่า น.81), เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (อองตวน กรีซมันน์ น. 61), อาเดรียง ราบิโอต์ (เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า น.61) – อุสมาน เดมเบเล่ (ร็องดาล โกโล่ มูอานี่ น. 86) , คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (กัปตันทีม), บรัดเล่ย์ บาร์กโกล่า (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น. 61)

โปแลนด์ (3-4-2-1) : ลูคัส สโครุพสกี้ – ยาน เบ็ดนาเร็ค, พาเวล ดาวิโดวิช, ยาคุบ คิวิออร์ – เพรมีสลาฟ ฟรานคอฟสกี้, ยาคุบ โมเดอร์, พิโอเตอร์ ซีลินสกี้, นิโกล่า ซาเลฟสกี้ (มิชาล สโคราส น. 68) – เซบาสเตียน ซีมานสกี้ (คาโรล ชวิเดอร์สกี้  น.68) , แคชเปอร์ อูร์บานสกี้ – โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (กัปตันทีม)

หน้าแรก


สล็อต365 UFA365 แทงบอล365
UFA DIAMOND สมัครฟรี คลิ๊กเลย ➢ https://ufadiamond.ibetauto.com/ufadiamond/ufabet/register
สอบถามเพิ่มเติม 🆔 𝙇𝙄𝙉𝙀 : @udm888