เชลซีเคยถูกล้ออย่างดูถูกดูแคลนเมื่อช่วงก่อนเปิดฤดูกาลว่าซื้อนักเตะมากอง ๆ กัน

ล้อกันอย่างจริง ๆ จัง ๆ จนกลายเป็นภาพของตัวตลก ดูถูกกันราวกับว่าสโมสรนี้ทำงานไม่เป็น นึกอะไรไม่ออกก็ซื้อ ซื้อ และซื้อ ทีมอะไรวะมีนักเตะในทีมตั้ง 40 กว่าคน

อันที่จริงแล้วถ้าจะพิจารณาถึงเหตุและผลสักหน่อย นอกเหนือไปจากความจริงที่ว่าแต่ละสโมสรล้วนมีแนวทางการทำงานของตัวเองแล้ว มันคงไม่มีทีมไหนตั้งใจใช้นักเตะ 40 กว่าคนลงเล่นในลีกจริง ๆ ตั้งแต่แรกหรอก

จนถึงตอนนี้ที่พรีเมียร์ลีกผ่านไป 16 เกม ลิเวอร์พูลใช้ผู้เล่นในลีกไปแล้ว 23 คน อาร์เซน่อล 22 คน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 22 คน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 24 คน

กับเชลซี.. ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น เพิ่งจะเป็นคนล่าสุดที่ได้ลงสนามในพรีเมียร์ลีกให้ทีมสิงโตน้ำเงินครามฤดูกาลนี้ในเกมเยือนเซาธ์แฮมป์ตันเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี้เอง นายทวารชาวเดนมาร์กคือผู้เล่นคนที่ 24 ที่ เอนโซ่ มาเรสก้า ใช้งานในเกมลีกซีซั่นนี้

ไม่ได้หนีไปจากทีมอื่น ๆ เท่าไหร่เลย

แล้วนักเตะที่เหลือของเชลซีไปไหน.. นั่นคือแนวทางการทำงานของแต่ละสโมสร เชลซีส่งนักเตะกระจายไปเล่นยังที่อื่น ๆ ด้วยสัญญายืมตัว นักเตะเหล่านั้นมาจากทั้งทีมอะคาเดมี่ของตัวเองและคนที่แมวมองเห็นแววคว้าตัวเข้าสู่ทีม

อะคาเดมี่ของเชลซีได้ชื่อว่าเป็นแหล่งเพาะบ่มนักฟุตบอลดาวรุ่งระดับท็อปของประเทศ เช่นเดียวกับทีมแมวมองที่มีประสิทธิภาพ พวกเขามีนักฟุตบอลดี ๆ อยู่ในมือหลายคน และการปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวไปใช้งานก็ทางเลือกที่ได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย

นักเตะมีเวทีให้เล่น สโมสรได้ติดตามผลงาน ถ้ามีแววก็เรียกมาเล่นในทีมชุดใหญ่ หรือคนที่ไม่ถึงชุดใหญ่จริง ๆ ก็ขายออกหรือกระทั่งทำกำไรได้

ฤดูกาลนี้เชลซีซื้อนักเตะใหม่มา 10 คนคือ ชูเอา เฟลิกซ์, เปโดร เนโต้, เรนาโต้ เวก้า, เคียร์แนน ดิวบิวรี่-ฮอลล์, โตซิน อดาราบิโอโย่, มาร์ก กีว, ฟิลิป ยอร์เกนเซ่น, อารอน อันเซลมิโน่, โอมารี่ เคลลี่แมน และ คาเล็บ ไวลี่ย์ รวมทั้งยืมตัว เจดอน ซานโช่ มาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกคน

เพียงแค่นี้ก็โดนล้อโดนดูถูกว่าเอานักเตะมากองกัน เหมือนลูกคนรวยที่อยากได้ของเล่นไม่รู้จักพอ ด้อยค่ากันต่าง ๆ นานา ทำรูปทำมีมกันอย่างคึกคะนองสนุกสนาน

คงจะลืมไปกระมังว่าแต่ละสโมสรย่อมต้องบริหารการเงินของตัวเองให้ดี ยิ่งในยุคนี้ที่กฎการควบคุมการเงินเข้มข้นด้วยก็ยิ่งต้องจัดการกับมันอย่างสมดุลที่สุด

ถ้าจะมองดูให้รอบด้านสักหน่อย เชลซีก็มีขาออกเช่นกัน พวกเขาขายหรือปล่อยฟรีนักเตะออกจากทีม 12 คน ให้ทีมอื่นยืมตัวไปใช้งาน 13 คน ขายหรือปล่อยฟรีผู้เล่นอะคาเดมี่ออกไป 9 คน ให้ทีมอื่นยืมตัวไปใช้งานอีก 7 คน

มันก็เหมือนกับทีมอื่น ๆ มีผู้เล่นเข้า มีผู้เล่นออก มีคนที่แจ้งเกิดได้ มีคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ มีคนที่ได้ต่อสัญญา มีคนที่ต้องไปหาโอกาสกับทีมอื่น

เราเอาแต่มองรายจ่าย 200 ล้านปอนด์จากการซื้อของพวกเขาตอนซัมเมอร์ แต่กลับไม่มองรายรับที่ได้กลับมา 170 ล้านปอนด์จากการขายผู้เล่นออกไป แล้วก็เยาะเย้ยพวกเขาว่าเป็นลูกคนรวยเอาแต่ใจ อยากได้อะไรก็ซื้อมากอง ๆ ไว้ ทำงานไม่เป็น บริหารทีมไม่เป็น

เชลซีเพียงก้มหน้าก้มตาทำงานของตัวเองไป แน่นอนไม่มีใครมองพวกเขาหรอกในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล ด้วยมีแผลสดมากมายเหลือเกินจาก 2-3 ปีที่ผ่านมา เมาริซิโอ โปเชตติโน่ ที่พาทีมชนะรวด 5 เกมสุดท้ายของซีซั่นก่อนยังอยู่ไม่ได้ ต้องเริ่มกันใหม่กับ มาเรสก้า ที่ไม่รู้จะเจอชะตากรรมเหมือนโค้ชหนุ่มอายุน้อยคนอื่น ๆ ที่เอาชื่อมาทิ้งในสแตมฟอร์ด บริดจ์ ก่อนหน้านี้หรือเปล่า

แต่จะบอกว่าพวกเขาไม่มีแผนงานเรื่องการจัดการนักเตะในทีมคงไม่ได้ นักเตะใหม่อย่าง คาเล็บ ไวลี่ย์ แบ๊กซ้ายวัย 19 ปีทีมชาติสหรัฐฯ จากแอตแลนต้า ยูไนเต็ด ถูกปล่อยให้ สตราส์บูร์ก ยืมตัวเพิ่มประสบการณ์ เช่นเดียวกับ อารอน อันเซลมิโน่ กองหลังอนาคตไกลวัย 19 ปีอีกคนชาวอาร์เจนไตน์ก็อยู่เล่นกับ โบคา จูเนียร์ส ต้นสังกัดเดิมต่อไปด้วยสัญญายืมตัวจนจบซีซั่น

สิ่งที่เชลซีทำอยู่ทุกฤดูกาลก็เหมือนกับสโมสรอื่น คัดสรรคนที่อยู่ต่อ ปล่อยตัวคนที่ไม่อยู่ในแผน เคลียร์ขุมกำลังที่มีทั้งทีมชุดใหญ่ ชุดสอง และชุดเยาวชนให้สมดุล มีแผนงานระยะสั้น ระยะกลาง ระยะไกล

กับนักเตะ 24 คนที่เชลซีใช้งานในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้หลังผ่านไป 16 เกม มันยังมีความชัดเจนที่สุดในเรื่องตัวจริงกับตัวสำรอง

เพียงตำแหน่งปีกซ้ายกับมิดฟิลด์ตัวกลาง 2 คนเท่านั้นที่ยังไม่ชัด ที่เหลืออีก 9 คนลงตัวหมดแล้ว

ผู้รักษาประตู โรเบิร์ต ซานเชซ

แบ๊กขวา มาโล กุสโต้, เซนเตอร์แบ๊ก ลีวาย โคลวิลล์ กับ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า (ปัจจุบันเจ็บ), แบ๊กซ้าย มาร์ก กูกูเรย่า

กองกลาง มอยเซส ไกเซโด้

ปีกขวา โนนี่ มาดูเอเก้, มิดฟิลด์ตัวรุก โคล พาลเมอร์

กองหน้าตัวเป้า นิโคลัส แจ๊คสัน

กับตำแหน่งมิดฟิลด์อีกคนที่ยังไม่ชัด ด้วย โรเมโอ ลาเวีย เล่นดีได้เป็นตัวจริงถึง 7 เกม แต่นาทีนี้ เอนโซ่ เฟร์นานเดซ คืนฟอร์มเก่งได้แล้วและเริ่มเป็นภาพที่ชัดขึ้นว่ากองกลางแชมป์โลกคือตัวจริงคู่กับไกเซโด้

อาจจะนับว่าเป็น 10 คนที่ลงตัวแล้วกับบทบาทตัวจริงในทีมก็พอจะพูดได้

ตำแหน่งที่ยังก้ำกึ่งที่สุดของเชลซีเห็นจะเป็นปีกซ้ายที่เวลานี้ เปโดร เนโต้ กับ เจดอน ซานโช่ ได้เล่นเป็นตัวจริงคนละ 7 เกมเท่ากัน แต่ทิศทางในช่วง 3-4 เกมหลัง ซานโช่ มีภาษีดีกว่าค่อนข้างชัด

เพราะฉะนั้นเชลซีใช้นักเตะเน้น ๆ ในพรีเมียร์ลีกได้แล้ว 9-10 คนจากทีมตัวจริง ไม่ได้มากมายล้นทะลักกองกันเละเทะ 40 กว่าคนแบบภาพที่ถูกล้อเลียนอะไรเลย ทั้งยังมีขุมกำลังที่ดูดีด้วยคุณภาพของตัวสำรองอย่าง คริสโตเฟอร์ เอนกุนกู, ชูเอา เฟลิกซ์ หรือ มิไฮโล มูดริก

โตซิน อดาราบิโอโย่ กับ เบอนัวต์ บาเดียชิล และ อั๊กเซล ดิซาซี่ ก็กำลังแย่งตำแหน่งเซนเตอร์แบ๊กตัวจริงยืนคู่กับ โคลวิลล์ แทน โฟฟาน่า ที่เจ็บยาว

เชลซีพร้อมไหมกับการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้หลังชนะมาแล้ว 7 นัดติดต่อกันในทุกรายการ 5 นัดติดต่อกันในลีก บีบช่องว่างที่เคยตามลิเวอร์พูล 9 คะแนนเหลือแค่ 2 แต้ม กระโจนขึ้นมาเป็นเต็งสองในมุมมองของบริษัทรับพนันถูกกฎหมาย

หลายคนว่าพร้อมแล้ว หลายคนว่ายังไม่พร้อม มาเรสก้าและลูกทีมทุกคนไม่มีใครพูดถึงแชมป์ แต่ โธมัส แฟร้งค์ กุนซือเบรนท์ฟอร์ดคู่แข่งทีมล่าสุดของพวกเขาบอกว่าทีมนี้น่าจับตา

เส้นทางยังอีกยาวไกล อย่างน้อยก็ยังมีสิ่งที่อาจจะเป็นอุปสรรคขวางทางเชลซีได้ ทั้งการบริหารความพึงพอใจของนักเตะในทีม ทั้งปัญหาฟอร์มตก อาการบาดเจ็บ หรือความกดดันที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อทีมเปลี่ยนสถานะจากม้านอกสายตาเป็นทีมลุ้นแชมป์

แน่นอนครับ มันเป็นคำถามที่มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะให้คำตอบที่ถูกต้องที่สุดกับเรา แต่ที่แน่ ๆ แฟนบอลเชลซีกำลังมีความสุขกับสิ่งที่ดำเนินไปในแต่ละเกม แต่ละวัน แต่ละสัปดาห์

ไม่มีใครมองพวกเขาเลยในตอนแรก.. บางทีแบบนี้แหละดีที่สุดแล้ว ฤดูกาล 2016/17 ที่ อันโตนิโอ คอนเต้ พาทีมทะลุคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกก็ไม่มีใครมองพวกเขาเหมือนกัน เพราะทุกสายตาไปอยู่ที่การเข้ามาของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่แมนเชสเตอร์กันหมด

ฤดูกาลนี้จะลงเอยอย่างไรไม่รู้หรอกนะครับ ในความรู้สึกของแฟนบอลเชลซีทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากนี้คงเหมือนเป็นโบนัส ถ้าได้แชมป์ขึ้นมาจริง ๆ ก็เป็นที่สุดแห่งความสุข แต่ถ้าไม่ได้ก็ยังสามารถภูมิใจในทีมอย่างเต็มที่

หากอนาคตที่ไกลไปกว่านั้นต่างหากครับ คือสิ่งที่น่าจะทำให้พวกเขารู้สึกอุ่นใจที่สุด

อายุเฉลี่ยของผู้เล่นทีมชุดใหญ่เชลซีฤดูกาลนี้คือ 23.9 ปี ยังมีเวลาเก็บเกี่ยวความสำเร็จได้อีกมาก และเมื่อยิ่งมองลึกลงไปในรายละเอียดก็ยิ่งเห็นถนนที่ส่องสว่าง

โรเบิร์ต ซานเชซ ที่อายุมากที่สุดในกลุ่มผู้เล่นตัวหลักมีอายุแค่ 27 ปี

เอนกุนกู 27 ปี, กูกูเรย่า 26 ปี, ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ 26 ปี, ดิซาซี่ 26 ปี

ชูเอา เฟลิกซ์ 25 ปี, รีซ เจมส์ (ส่งกำลังใจช่วย) 25 ปี

ซานโช่ 24 ปี, เนโต้ 24 ปี, โฟฟาน่า 24 ปี

เอนโซ่ 23 ปี, ไกเซโด้ 23 ปี, แจ๊คสัน 23 ปี, มูดริก 23 ปี, บาเดียชิล 23 ปี

พาลเมอร์ 22 ปี, มาดูเอเก้ 22 ปี

โคลวิลล์ 21 ปี, กุสโต้ 21 ปี, เวก้า 21 ปี

โรเมโอ ลาเวีย 20 ปี..

แน่นอนครับ ในจำนวนนักเตะเหล่านี้ คงมีคนที่ได้อยู่ต่อ และมีคนที่ต้องจากทีมไป มันคือวิถีทางของมืออาชีพ

แต่เชลซีในวันนี้และวันข้างหน้า ไม่ใช่ทีมที่ไร้อนาคตเลย มันเป็นในทางตรงข้ามกันด้วยซ้ำ..

หน้าแรก


สล็อต365 UFA365 แทงบอล365
UFA365 UFA DIAMOND สมัครฟรี คลิ๊กเลย ➢ https://member.ufadm8.com/register.php
สอบถามเพิ่มเติม 🆔 𝙇𝙄𝙉𝙀 : https://lin.ee/QJ7cl29